เผยโฉม Xiaomi 13 Series กล้องโหด Leica สเปคเทพ สมการรอคอย

 


กรุงเทพฯ ประเทศไทย 26 กุมภาพันธ์ 2566 – เสียวหมี่ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด – Xiaomi 13 Series – สู่ตลาดต่างประเทศ ณ งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ด้วยความร่วมมือด้านผลิตภัณฑ์เชิงลึกระหว่างเสียวหมี่ และ Leica ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพใน Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุดแก่ผู้ใช้งานทั่วโลก สมาร์ทโฟนเรือธงทั้งสองรุ่นนี้ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงนั้นได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมร่วมกับ Leica โดยมาพร้อมเลนส์ออปติคัลระดับมืออาชีพของ Leica รวมไปถึงความสามารถในการคำนวณขั้นสูงและซอฟต์แวร์มากมายเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานจาก Leica อย่างแท้จริง ทั้งยังมีคุณสมบัติระดับพรีเมียมอื่นๆ ได้แก่ การใช้ชิปเซ็ต Snapdragon® 8 Gen 2 ใหม่ล่าสุด และระบบจัดการแบตเตอรี่ Xiaomi Surge เพื่อให้คุณมั่นใจในประสิทธิภาพอันทรงพลังในทุกๆ ด้านอีกด้วย



การถ่ายภาพระดับปรมาจารย์ด้วยระบบกล้องที่ร่วมออกแบบโดย Leica

ในทุกมิติของระบบกล้องของ Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์และคุณภาพของภาพไปจนถึงการออกแบบ UI/UX ได้ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับ Leica เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนระดับมืออาชีพ สมาร์ทโฟนทั้งสองมาพร้อมกับกล้องสามตัวพร้อมเลนส์ออปติคัลจาก Leica

ระบบกล้อง Leica Vario-Summicron 1:19-2.2/14-75 ASPH ใน Xiaomi 13 Pro ครอบคลุมทางยาวโฟกัสตั้งแต่ 14 มม. ถึง 75 มม. โดยประกอบไปด้วยกล้องเลนส์ไวด์ 23 มม. พร้อมเซ็นเซอร์ IMX989 ขนาดใหญ่พิเศษ 1 นิ้ว กล้องเทเลโฟโต้ลอยตัว 75 มม. และเลนส์อัลตร้าไวด์ 14 มม. เซ็นเซอร์ IMX989 ที่ถูกใช้ครั้งแรกใน Xiaomi 12S Ultra เป็นเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ด้วยช่วงไดนามิกที่สูงทำให้สามารถเก็บแสงได้อย่างยอดเยี่ยมและยังตอบสนองรวดเร็ว เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่นี้ทำให้ได้ภาพที่มีสีสันพร้อมคอนทราสต์ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดและเก็บทุกรายละเอียดของทุกพื้นผิวได้อย่างไม่มีที่ติ นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีการโฟกัสภาพในระดับ DSLR ทำให้เลนส์เทเลโฟโต้ขนาด 75 มม. นั้นใช้ประโยชน์จากการออกแบบเลนส์แบบลอยตัว (a floating lens design) เพื่อให้ได้ช่วงโฟกัสตั้งแต่ 10 ซม. ถึงระยะอินฟินิตี้ ซึ่งสมบูรณ์แบบสำหรับการจัดเฟรมภาพบุคคลที่สวยงามและภาพถ่ายระยะใกล้อันยอดเยี่ยม


ในขณะเดียวกัน Xiaomi 13 มาพร้อมช่วงซูมออปติคอล 0.6x ถึง 3.2x และยังมีเลนส์เทเลโฟโต้ 75 มม. ซึ่ง Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro มีตัวเลือกการตั้งค่ากล้องที่มีรายละเอียดมากมายเพื่อสร้างความประทับใจให้กับทั้งช่างภาพมือสมัครเล่นและช่างภาพมืออาชีพ ระบบเลนส์หลักซึ่งเป็นคุณสมบัติของซอฟต์แวร์มอบทางยาวโฟกัสและระยะชัดลึกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพบุคคลที่สมบูรณ์แบบ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกสไตล์การถ่ายภาพที่แตกต่างกันได้ 2 แบบ ได้แก่ Leica Authentic Look และ Leica Vibrant Look โดยจะมอบความงดงามของภาพที่ยอดเยี่ยมไว้ด้วยความแม่นยำและมีความอิ่มตัวของสีในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้สมาร์ทโฟนนี้ยังนำ UI ที่น่าสนใจและใช้งานง่ายมาพร้อมกับฟีเจอร์สนุกๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลายน้ำของ Leica เสียงชัตเตอร์คลาสสิกของ Leica และฟิลเตอร์ของ Leica เพิ่มเข้ามาอีกด้วย

Xiaomi 13 Pro และ Xiaomi 13 มาพร้อม Xiaomi Imaging Engine ทำให้มีความสามารถในการถ่ายภาพที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนเรือธงทั้งหมดของเสียวหมี่ ไม่เพียงแค่เพิ่มความเร็วในการถ่ายภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถโฟกัสวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้โดยอัตโนมัติด้วย Xiaomi ProFocus อีกด้วย


สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นให้คุณสามารถปรับพารามิเตอร์การถ่ายภาพได้ด้วยตนเองในโหมดโปร ในขณะที่ Xiaomi 13 Pro รองรับกล้อง RAW DNG 10 บิต (10-Bit RAW DNG) และโปรไฟล์สี (Color Profiles) ที่สร้างโดย Adobe เพื่อรองรับ Adobe Photoshop และ Adobe Lightroom

Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro ยังเก่งในด้านการถ่ายวิดีโออีกด้วย โดยมาพร้อมเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพ อุปกรณ์ทั้งสองช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ "Create in Dolby Vision®" เพื่อสีสันที่สวยสดสมจริง, คอนทราสต์ที่คมชัด และรายละเอียดที่สมบูรณ์ ถ่ายวิดีโอ 4K Ultra Night และนำเสนอระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วย HyperOIS สำหรับการจับภาพวิดีโอคุณภาพเยี่ยม


ความเร็วผสานเข้ากับประสิทธิภาพอันน่าทึ่งด้วย Snapdragon®️ 8 Gen 2 และ Xiaomi Surge


ทั้ง Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ตชั้นนำ Snapdragon®️ 8 Gen 2 พร้อมการประมวลผลกราฟิกที่ได้รับการปรับปรุงผ่านประสิทธิภาพของ GPU และการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานที่ดีขึ้น 42% และ 49% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในขณะที่ประสิทธิภาพและพลังงานของ CPU ประสิทธิภาพดีขึ้น 37% และ 47% ตามลำดับ1เช่นกัน ประสิทธิภาพที่ทรงพลังนี้การันตีความสามารถในการจัดการกับงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพ, AI แบบเรียลไทม์ และการเล่นเกม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับใช้ได้ทั้งได้อย่างมั่นใจ

อุปกรณ์นี้ยังรองรับ Wi-Fi 7 พร้อมระบบเชื่อมต่อมือถือ Qualcomm® FastConnect™ 7800 Xiaomi 13 Pro มาพร้อมเทคโนโลยี Multi-Link High Band Simultaneous (HBS) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อ 5GHz และ/หรือ 6GHz ได้หลายรูปแบบพร้อมกัน และสามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ถึง 5.8Gbps ทั้งยังลดทอนความล่าช้าและเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายที่ดีขึ้น2 ในขณะที่ Xiaomi 13 มาพร้อม เทคโนโลยี Dual Band Simultaneous (DBS) Multi-Link และสามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ถึง 3.6Gbps2

 


Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro มาพร้อมกับระบบการจัดการแบตเตอรี่ Xiaomi Surge ซึ่งใช้ชิปการชาร์จ Surge ที่พัฒนาขึ้นเองของเสียวหมี่เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นและประสบการณ์ที่ดีขึ้นอีกระดับ Xiaomi 13 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh ที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูงที่สุดภายใต้กำลังไฟเดียวกันทำให้คุณสามารถใช้งานได้ตลอดวัน นอกจากนี้ยังรองรับเทอร์โบชาร์จแบบมีสาย 67W และเทอร์โบชาร์จไร้สาย 50W ในขณะเดียวที่ Xiaomi 13 Pro ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,820mAh พร้อมระบบ HyperCharge 120W ซึ่งสามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 19 นาที3 เท่านั้น



สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมดีไซน์มินิมอลสุดพรีเมียมและจอแสดงผลที่ดีที่สุดในรุ่น


ทั้ง Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความเรียบง่ายโดยเน้นความสามารถทางเทคโนโลยีอันทรงพลัง

Xiaomi 13 มีสีสุดคลาสสิกและดึงดูดใจให้เลือก ได้แก่ Black, White และ Flora Green มาพร้อมดีไซน์จอแบบ flat ที่มีสไตล์พร้อมขอบแบน และดีไซน์ด้านหลังโค้งแบบ 2.5 มิติ Xiaomi 13 นั้นถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มสัมผัสที่กระชับมือและน่าประทับใจ โดยมาพร้อมอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.3% และขอบจอบางเฉียบเพียง 1.61 มม.4 จึงมอบประสบการณ์การรับชมที่สมจริงไม่เป็นรองใครสำหรับอุปกรณ์ในขนาดเท่านี้ Xiaomi 13 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED FHD+ ขนาด 6.36 นิ้ว และใช้วัสดุ E6 AMOLED แบบใหม่เพื่อให้ภาพที่สว่างและสีที่แม่นยำยิ่งขึ้นด้วยการใช้พลังงานที่น้อยลง



Xiaomi 13 Pro ได้รับการออกแบบตัวเครื่องด้วยเซรามิกโค้งมน 3 มิติเพื่อให้ดูสม่ำเสมอตลอดทั้งอุปกรณ์ไปจนถึงตัวกล้อง Xiaomi 13 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ceramic Black และ Ceramic White ให้ความรู้สึกดีเยี่ยมเมื่อใช้งาน ตัวอุปกรณ์มาพร้อมหน้าจอแสดงผล 120Hz WQHD+ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.73 นิ้ว และด้วยการใช้วัสดุ E6 แบบเดียวกัน ทำให้ตัวอุปกรณ์สามารถให้ความสว่างเต็มหน้าจอ 1,200 nits และให้ความสว่างสูงสุด 1,900 nits รวมทั้งยังสามารถแสดงสีที่แม่นยำด้วย TrueColor ด้วย Dolby Vision®, HDR10+, HDR10, HLG รวมถึง Dolby Atmos® ได้อีกด้วย ทำให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ภาพและเสียงได้อย่างเต็มที่


สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมาพร้อมการป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68 เพื่อการป้องกันที่ดีที่สุดและให้คุณใช้งานได้อย่างไร้กังวล

ทั้งนี้ ทาง xiaomi ประเทศไทยจะมีการประกาศราคาและวันวางจำหน่ายในประเทศไทยในวันอังคารนี้ 



ไม่มีความคิดเห็น